ตลาดชายแดนช่องจอมเงียบเหงา พ่อค้า-แม่ค้าต้องปรับตัว บางรายตัดสินใจย้ายร้านไปขายที่อื่น รอสถานการณ์ปกติค่อยกลับมา

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่ย่านการค้าตลาดชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แม้จะเป็นวันหยุด ก็เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไร้นักท่องเที่ยวและผู้คนเข้ามาหลังเกิดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 เดือน ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งออกสินค้า โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค-บริโภค รวมทั้งผู้ค้ารายย่อยที่ชาวกัมพูชาจะข้ามแดนเข้ามาซื้อเพื่อนำไปบริโภคและจำหน่ายต่อ เริ่มทยอยปิดตัวและหันไปหาช่องทางการตลาดในพื้นที่อื่นๆ แทน โดยเฉพาะร้านอาหาร ที่ปิดตัวลงและย้ายร้านไปขายในพื้นที่อำเภออื่นๆ เกือบหมดแล้ว และต่างรอดูสถานการณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังคงมีร้านค้า อาหารสด ผลไม้ และของอุปโภค บริโภค เปิดจำหน่ายอยู่บ้าง ซึ่งต่างต้องปรับตัว และยังคงดำเนินกิจการต่อ โดยขายให้คนไทยที่มาช่วยซื้อกันเอง แม้รายได้จะลดลงจากเดิมก็ตาม แต่ทุกคนก็ทำใจและยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น

น.ส.อรุณ แม่ค้าขายผลไม้ย่านตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ก่อนจะเกิดสถานการณ์ ตนก็ส่งออกผลไม้ ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุดและลองกอง ลงไปกัมพูชา หยุดส่งตั้งแต่ปะทะกันครั้งแรก ตอนแรกก็รู้สึกอึดอัดมาก และปรับขายให้คนไทย ขายได้เท่าไหร่เท่านั้น ยอดขายลดลงมาก เหลือวันละหลักร้อยหลักพัน แทบไม่มีเงินใช้จ่าย ไหนจะลูกน้องอีก จำเป็นต้องขาย และเลี้ยงลูกน้องต่อไป

ถ้าด่านปิดยาว ก็ต้องปรับตัวขายให้คนไทยอย่างเดียว หากมีคนไทยกลับเข้ามาอยู่ และค้าขายก็ยังพอขายให้คนไทยได้ แต่ตอนนี้เงียบ อยากให้รัฐบาลมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนด้วย ถึงยังไม่ปะทะก็ตาม หรือจัดการปัญหาให้จบเร็วๆ ชาวบ้านจะได้กลับมาค้าขายกันได้ และฝากแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ช่วยจัดการให้เสร็จ ชาวบ้านรออยู่ รอมานานแล้ว.