จับแล้ว 4 โจรชาวอังกฤษ! ขับรถไล่ชนหนุ่มอเมริกัน ก่อนชิงนาฬิการหรู มูลค่า 2.3 ล้านบาท ผู้เสียหายยืนยันไม่เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อนเชื่อทำเป็นขบวนการ หาเหยื่อก่อนลงมือ


จากกรณีเกิดเหตุ คนร้ายขับรถเก๋งไล่ชน หนุ่มชาวอเมริกัน อายุทนายความอายุ 40 ปี ที่ขับรถจักรยานยนต์มาตามถนน ทางไปลายัน ซอย 7 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และชิงนาฬิกาหรู มูลค่า 2.3 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย.68 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถเก๋งไปจอดทิ้งที่บริเวณป่าละเมาะในพื้นที่ ต.สาคู องถลาง จ.ภูเก็ต และมีรายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้าย จำนวน 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวอังกฤษ และนำตัวมาสอบสวนได้แล้ว พร้อมยึดรถจำนวน 3 คัน นาฬิกาของกลาง 1 เรือน โดยจับได้ที่บริเวณวิลล่าหรูแห่งหนึ่งหลังเทศบาลตำบลเชิงทะเลอย่างไรก็ตามจากการสอบถามชาวต่างชาติผู้เสียหาย ทราบว่า ขณะที่กำลังขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับที่พัก ก็ถูกรถเก๋งไล่ชน หลังจากนั้นมีคนร้ายเป็นชายรูปร่างใหญ่ 2 คน ได้เข้าไปทำร้าย โดยใช้ด้ามมีดทุบลงไปที่คอ 1 ครั้ง และพยายามชิงนาฬิกาที่ตนสวมอยู่ พร้อมกับพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าถ้าไม่ให้นาฬิกา จะทำร้ายตนอีกด้วยมีด ตนจึงยอมให้นาฬิกาไป หลังจากนั้น คนร้ายก็ได้ขึ้นรถขับหลบหนีไป ส่วนตนก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ และได้มีการแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ


และจากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่า ผู้เสียหายมีอาชีพเป็น ป็ทนายความ อาศัยอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และ ถือพาสปอร์ต 3 เล่ม เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต ในครั้งนี้ได้ประมาณ 10 วันแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย และภูเก็ต แล้วมากกว่า 60 ครั้ง และไม่เคยพบกับเหตุการณ์อย่างนี้เลย ซึ่งครั้งนี้ก็รู้สึกตกใจมากที่เกิดเหตุแบบนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องกับใคร และผิดใจกับใครมาก่อน ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ ตนก็ใส่มาตลอด และก่อนที่จะมาเกิดเหตุ ได้ไปกินกาแฟ เดินตลาด ไปร้านซักผ้า และแวะร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะมาเกิดเหตุ ซึ่งเส้นทางดังกล่าวตรงจุดเกิดเหตุนั้น เป็นถนนแถวทางไปลายันซ. 7 ตนคิดว่า น่าจะเป็นเส้นทางที่ทะลุเข้าไปอย่างที่พักของตนได้


ซึ่งตอนนั้นฝนตก และโทรศัพท์ ก็นำไปวางไว้ที่ล็อกใส่ของในรถมอเตอร์ไซต์ ไม่ได้เปิดแมพ แต่แล้วก็มาเกิดดังกล่าวขึ้นตรงจุดบริเวณนั้น ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสงสัยว่า 2 โจรต่างชาติ เหมือนมืออาชีพ มีการเจาะจงเหยื่อ และ อาจทำจะเป็นขบวนการหรือไม่ เพราะในที่เกิดเหตุมีรถยนต์ค้นข้างหน้า รถก่อเหตุ และมีรถอีกคันที่ขับตามหลังมาด้วย