นร.หญิงสหรัฐฯ วัย 18 ถูกลูกหลงยิงสาหัส ครอบครัวตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ บริจาคอวัยวะช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น หลายคนชื่นชมยกย่อง ร่วมส่งเธอเป็นครั้งสุดท้าย


เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า นักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายปีสุดท้าย เหยื่อเหตุยิงกันระหว่างการจัดงานกองไฟ ในเมืองคลีฟแลนด์รัฐแอละแบมา ล่าสุดครอบครัวตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ และบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ด้านเพื่อนๆ ร่วมไว้อาลัยในช่วงเวลาสุดท้าย


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 19 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคิมเบอร์ มิลส์ วัย 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายและเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกยิงพร้อมกับผู้เคราะห์ร้ายอีก 3 คนระหว่างงานกองไฟ (bonfire party) ในเมืองพินสัน ใกล้เมืองเบอร์มิงแฮม ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล


จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์เริ่มต้นจากการทะเลาะวิวาท ก่อนจะมีการยิงปืนขึ้น


ภาพประกอบ


ขณะนี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา ชื่อสตีเวน ไวท์เฮด วัย 27 ปี โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม 1 กระทง และพยายามฆ่าอีก 3 กระทง เขาถูกควบคุมตัวโดยไม่ได้รับการประกันตัว


ด้านมิลส์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และถูกถอดเครื่องช่วยชีวิตในวันอังคาร (21 ต.ค.) ครอบครัวเปิดเผยว่า เธอเป็นผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้หลายคน


พี่สาวของมิลส์เผยว่า มีการจัดพิธีอำลาเกียรติยศให้เธอภายในโรงพยาบาล ก่อนที่แพทย์จะเริ่มขั้นตอนการบริจาคอวัยวะ โดยมีครอบครัว เพื่อน และคนในชุมชนร่วมไว้อาลัยกว่า 100 คน “เธอเป็นที่รักของทุกคนในชุมชนที่แสนอบอุ่นแห่งนี้ เรารู้สึกขอบคุณทุกคนที่มาอยู่เคียงข้างเรา”


รายงานระบุว่า หัวใจและปอดของมิลส์จะถูกส่งมอบให้กับผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะเหล่านี้อย่างเร่งด่วน ขณะที่เงินบริจาคจาก GoFundMe จะถูกนำไปช่วยเหลือเหยื่อรายอื่นที่ยังคงรักษาตัวจากเหตุการณ์ยิงดังกล่าว